วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แอ่วเหนือ เที่ยวกันเตอะจ้าววว........

ดอยผ้าห่มปก ฟ้าห่มดอย


ดอยห่มฟ้า (คำว่า ผ้าห่มปก นั้นแผลงมาจาก คำว่า “ฟ้าห่มปก” อันหมายถึงดอยนี้มีความสูงเฉียดฟ้าราวกับปกคลุมไปด้วยผืนฟ้า) สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งเป็นสถานที่ใช้สำหรับพักผ่อนกันเป็นครอบครัวและสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่เป็นทะเลหมอกได้รอบตัว อากาศบนยอดดอยก็เย็นมากๆ คนในพื้นที่เรียกดอยผ้าห่มปกว่า ดอยผาหลวง 

ดอยผ้าห่มปก (ดอยฟ้าห่มปก) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก(อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก) อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นป่าต้นน้ำลำธารมีความโดดเด่นและน่าสนใจจากการเป็นยอดดอยที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศ มีทิวทัศน์บนยอดดอยที่สวยงาม และอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาว อาจจะพบแม่คะนิ้ง น้ำแข็งที่เกาะอยู่ปลายยอดหญ้าเป็นบางครั้งถ้าอากาศเย็นมากๆ  
บนอุทยานมีสองสิ่งที่ต้องไปสัมผัสเที่ยวชม สิ่งแรกคือ บ่อน้ำพุร้อน  อุณหภูมิของน้ำประมาณ 40-88 องศาเซลเซียส มีจำนวนบ่อน้ำพุมากถึง 50 บ่อไอน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมามีความสูง 40-50 เมตร เป็นสิ่งหนึ่งที่สวยงาม และต้องแวะไปชมสำหรับกิจกรรมในครอบครัว และยังมีบ่อน้ำแร่สำหรับคนรักสุขภาพ

            



อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของดอยผ้าห่มปกคือทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะ บริเวณม่อนกิ่วลม ซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์และจุดชมวิวยอดนิยมของการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ดอยผ้าห่มปก จากนั้นเดินขึ้นไปสู่ยอดดอยอีกราว 3 กิโลเมตรระหว่างทางผ่านป่าโบราณที่อุดมด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า เมื่อเลยตัวป่าขึ้นไปถึงยอดดอยจะพบกับทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง ในฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกคลอเคลียยอดเขาบริเวณนั้นให้ได้ชมโดยเฉพาะยอดดอยอ่างขางที่อยู่ไกลลิบตาออกไป







ที่ตั้ง

อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก

224 ม.6 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 50110

โทรศัพท์ ,โทรสาร: 0 5345 3517, 084-483-4689



เที่ยวดอยห่มปกไปด้วยกันนะค่ะ 



เครดิต : ดอยผ้าห่มปก

ชมพรรณไม้ตลอดปีที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เชียงใหม่



 สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติตลอดระยะเวลา ๒๐ ปี หรือ ๒ ทศวรรษ อันเป็นหนึ่งในโครงการเทิดพระเกียรติในโอกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๖๐ พรรษา คือการจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์ที่มีมาตรฐานสากลแห่งแรกของไทยซึ่ง เดิมชื่อ สวนพฤกษศาสตร์ แม่สาตามสถานที่ตั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชื่อว่า สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์QueenSirikitBotanic Garden โดยใช้บริเวณพื้นที่สูงของอำเภอแม่ริม ด้านส่วนปลายของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีเนื้อที่ประมาณ ๖,๕๐๐ ไร่ ลักษณะเป็นพื้นที่ราบและที่สูงต่างสลับกันไป ระดับความสูงของพื้นที่ราว ๕๕๐-๑,๒๗๐ เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ด้วยสภาพพื้นที่สวยงาม สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้จึงนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติที่โดดเด่นมากของเมืองเชียงใหม่และของประเทศไทยด้วย


สถานที่ที่น่าสนใจภายในสวน

ศูนย์สารนิเทศ เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพรรณไม้ไทย นิทรรศการด้านพฤกษศาสตร์ และมีหนังสือเกี่ยวกับพรรณไม้ที่สวนพฤกษศาสตร์จัดทำขึ้นจำหน่ายอีกด้วย


 - กลุ่มอาคารเรือนกระจก อาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในอาคารใหญ่รวบรวมพรรณไม้ในเขตป่าดงดิบจากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ใน







เรือนกล้วยไม้ไทย ในเรือนนี้ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงามหลายชนิด มีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออกดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์ 



- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สวนพฤกษศาสตร์ได้จัดเส้นทางเดินชมพรรณไม้ตามเส้นทางป่าธรรมชาติ



เที่ยวชมสวน พบกับพรรณไมั้นานาชนิด



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เลขที่ ๑๐๐ หมู่ ๙ ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๕๘ โทรศัพท์ ๐ ๕๓๘๔-๑๐๐๐ เว็บไซต์ www.qsbg.org


วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร


สถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อได้ไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ คือการไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตัวเอง และที่สำคัญที่น่าประทับใจคือบันไดนาคที่มีขั้นบันไดเยอะมาก แต่เมื่อได้ขึ้นไปถึงบนพระธาตุทำให้หายเหนื่อยได้เลย เพราะความตระการตาของพระธาตุที่มีความสวยงามและเป็นที่กราบไหว้ของนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวเชียงใหม่
  พระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1927 มีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปสู่วัด 306 ขั้นภายใน วัดเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพมีชื่อเต็มว่า วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพวรวิหารซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่




                บันใดนาค เป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของวัดพระธาตุดอยสุเทพ มีความงดงามทางด้านศิลปะที่ทรงคุณค่า และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวผู้มานมัสการพระบรมธาตุ มักจะต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่ด้านของบันใดนาคซึ่งมีทัศนียภาพงดงามและมีเสน่ห์เมื่อมองขึ้นไปตามขั้นใด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนครั้งแรกมักจะเดินขึ้น-ลงบันใดนาคเสมอ สามารถเดินทางขึ้น-ลงได้ตลอดทั้งวัน แต่จะมีการตั้งด่านตรวจของอุทยานฯ



ไหว้พระขอพรที่พระธาตุวัดมิ่งขวัญชาวเชียงใหม่




ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ



เมื่อฤดูหนาวเข้ามาเยือนเมืองแม่ฮ่องสอน ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอจะบานสะพรั่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามา เยือน และชมความงดงามของ ท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยสีเหลืองส้มปกคลุมเต็มเทือกเขา ทุ่งบัวตองอยู่ในเขต บ้านสุรินทร์ ต.ยวมน้อย อ.ขุนยวมและจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน พฤศจิกายน- ต้นเดือนธันวาคม เกือบสุดปลายทางถนน 108 ที่อำเภอขุนยวมในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวสามารถ เที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองบาน




   ทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีให้ชมเพียงปีละครั้งเท่านั้นกิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีก แห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะเป็นทิวเขาเขียวสูงขึ้นสลับด้วยทิวทุ่งดอกบัวตอง เหลืออร่ามทั่วพื้นเขาเมื่อเดินขึ้นไปยังดอยแม่อูคอแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้ทั่ว มีศาลาชมวิวที่ สร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง ซึ่งจากศาลาชมวิวสามารมองเห็นทุ่งดอกบัวตองได้ 360 องศา นอกจากนี้ในระหว่างทางชมทุ่งดอกบัวตอง ตรงจุดพักรถข้างทางใกล้หมู่บ้านก่อนถึงดอยแม่อูคอประมาณ 2 กิโลเมตร

      เมื่อได้ไปสถานที่แห่งนี้มีความประทับใจมาก สามารถไปเป็นครอบครัว ไปพักผ่อนหย่อนใจ เมื่อเครียดกับเรื่องงานก็สามารถทำให้ผ่อนคลายได้เพราะความสวยของทุ่งดอกบัวตองที่ตระการตาจนทำให้ลืมเรื่องเครียดได้ อยากให้แวะไปชมดูสวยงามจริง และมีบรรไดสำหรับขึ้นเขาที่ให้เราสามารถเดินชมได้อย่างสะบายและบรรยากาศก็ดีอากาศจะเย็นหนาว ให้บรรยากาศสดชื่นดีมากเลย









เครดิต : เที่ยวทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ


ดอยตุง - สวนแม่ฟ้าหลวง



 ดอยตุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอันดับแรกของเมืองเชียงราย มีชื่อเสียงมากด้านความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะ สวนแม่ฟ้าหลวง บนดอยตุงนั้น นับได้ว่าเป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในประเทศไทย 
นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ พระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงราย ทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีกุนอีกด้วย 
ยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อันได้แก่ 

สวนแม่ฟ้าหลวง 


ภายในประดับประดาด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ มีดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโก เนีย กุหลาบ ไม้มงคลต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลี้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด และยังมีรูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือปั้นของคุณมีเซียม ยิปอินซอย กลางสวนมีงานประติมากรรม ของนางมิเซียม ยิบอินซอย
มีศาลาชมวิวและร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง 









พระตำหนักดอยตุง 

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเรียกพระตำหนักนี้ว่า "บ้านที่ดอยตุง"ตัวอาคารชั้นบนแยกเป็น ส่วน ส่วนที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ส่วนท้องพระโรงและห้องประกอบพระกระยาหารการตกแต่งภายในเป็นไปอย่างเรียบง่าย สง่างาม เน้นประโยชน์ใช้สอยอย่างพอดี สะท้อนลักษณะอุปนิสัยของ เจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี 





ยังสามารถไปนมัสการพระธาตุดอยตุงที่เป็นพระธาตุที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวเชียงรายได้อีกด้วย





อุโบสถวัดร่องขุ่น 



                ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องไปเมื่อไปเยือนเมื่อไปถึงจังหวัดเชียงราย สำหรับ "วัดร่องขุ่น" วัดที่ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรเรืองนาม ที่อุทิศตนสร้างวัดอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรอลังการ 


                วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ถือเป็นศาสนาสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย เป็นผลงานการออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรไทยที่มีผลงานจิตรกรรมไทยหลากหลาย จนได้รับการยกย่องขึ้นเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี พ.ศ. 2554 ผู้ซึ่งอุทิศตนสร้างวัดวัดร่องขุ่นอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ให้วัดแห่งนี้งดงามดังสวรรค์ที่มีอยู่จริง อีกทั้งมนุษย์สามารถสัมผัสได้บนพื้นพิภพ คล้ายเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้คนเราใฝ่ปฏิบัติธรรม และประกอบแต่กรรมดีในการดำเนินชีวิต 


ภายในวัดร่องขุ่น

          สิ่งที่โดดเด่นเมื่อมาเยือนวัดร่องขุ่น ก็คือ พระอุโบสถ ที่มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรอลังการ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงช่อฟ้า ใบระกา และรายละเอียดซึ่งแตกต่างไปจากวัดแห่งอื่น โดยตัวพระอุโบสถที่เน้นสีขาวบริสุทธิ์นั้น สื่อแทนพระบริสุทธิคุณ ขณะที่กระจกขาววาววับจับประกายระยิบระยับ หมายถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธองค์ที่โชติจรัสชัชวาลไปทั่วทั้งโลกมนุษย์และจักรวาล




















ภาพวาดภายในโบสถ์ในวัดร่องขุ่นสวยจริงๆค่ะ 





















เที่ยวกันเยอะๆนะคะ